โรคข้อเสื่อมเป็นผลมาจากวัยและการใช้งาน
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางหลีกเลี่ยงเสีย มีข้อแนะนำหลายประการที่จะช่วยให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างไร้กังวลแม้อายุจะเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันมีคนไทยเป็นโรคข้อเสื่อม
กระดูกพรุนมากถึง 7 ล้านคน โดยมักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและผู้สูงอายุ ที่สำคัญ จำนวนตัวเลขดังกล่าวมีแต่จะเพิ่มขึ้น
เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุที่มีมากขึ้นนั่นเอง
โรคข้อเสื่อม
เป็นอาการที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ฉาบผิวกระดูกข้อต่อไว้ไม่ให้มีการเสียดสีกันเมื่อเคลื่อนไหว
ซึ่งเมื่อเราเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการลุก นั่ง ยืน หรือเดิน
ข้อต่อจะทำงานสอดประสานกันอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อกระดูกอ่อนผุพังหรือบางลง
กระดูกข้อต่อก็จะเสียดสีกันจนเป็นผลให้เกิดการอักเสบ ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณข้อต่อจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ
และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
การหลีกเลี่ยงอาการปวดข้อนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย
หากคุณดูแลร่างกายเป็นอย่างดี และนี่คือ 4 วิธี
ที่จะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคข้อเสื่อม
1. ควบคุมน้ำหนัก
หนึ่งในสาเหตุใหญ่ของอาการข้อเสื่อมก็คือ การที่มีน้ำหนักตัวเกิน หรืออ้วน
เพราะยิ่งน้ำหนักตัว มากเท่าไร ข้อต่าง ๆ ในร่างกายก็ยิ่งต้องรับภาระมากเท่านั้น
โดยเฉพาะข้อเข่า สะโพก และ หลัง ที่เป็นกำลังหลักในการรับน้ำหนักของร่างกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการควบคุมน้ำหนักจึงเป็นการทนุถนอมข้อกระดูกทางหนึ่ง
โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี
แต่หากผู้ป่วยกังวล ว่าการออกกำลังกายจะเป็นอันตรายต่อข้อกระดูก
ก็ควรเลือกประเภทของการออกกำลังกายที่ข้อไม่ต้องแบกรับภาระมากนัก เช่น ว่ายน้ำ
การเดินในน้ำ เดิน หรือปั่นจักรยาน (ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง)
2. ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ “น้ำหนักน้อยก็ใช่ว่าจะไม่เป็นโรคข้อ หากทำอะไรที่ผิดท่า ไม่ว่าจะชอบนั่งยอง ๆ นั่งกับพื้น ผุดลุกผุดนั่งบ่อย ๆ หรือการขึ้นบันไดเป็นประจำ เหล่านี้ก็ทำให้ข้อเข่าเสียได้บางคนชอบยืนทิ้งน้ำหนักข้างเดียวซึ่งเป็นการสร้างภาระให้กับข้อข้างนั้นแทนที่จะลงน้ำหนักสองขาเท่า ๆ กัน อย่างนี้เป็นต้น”
การนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น นั่งหลังงอและก้มคอทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมงก็เป็นผลเสียต่อข้อต่อบริเวณคอ และกระดูกสันหลังส่วนเอวเช่นกัน ควรนั่งให้ถูกต้องโดยการนั่งพิงพนักเก้าอี้ และไม่ควรก้มคอนาน ๆ นอกจากนั้นทางที่ดี ควรหาโอกาสขยับตัว โดยลุกขึ้นมาเดินบ้าง ยืดแขนยืดขาบ้างเพื่อเป็นการบริหารข้อต่อ
3. เสริมสร้างกล้ามเนื้อ แม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นสิ่งดี แต่หากออกกำลังกายหนักเกินไป ก็จะเป็นการสร้างภาระให้กับข้อกระดูกได้ โดยจะเห็นได้จากนักกีฬาอาชีพ ซึ่งมักมีปัญหาข้อกระดูกเสื่อมอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ การป้องกันโรคข้อเสื่อมจากการออกกำลังกายสามารถทำได้โดยการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อเป็นส่วนสำคัญในการแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ของข้อต่อเมื่อร่างกายเคลื่อนไหวรุนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณเอ็นข้อต่อซึ่งเป็นจุดสำคัญของการออกกำลังแทบทุกประเภท นอกจากนี้ การมีกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังที่ดีจะทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังรับภาระน้อยลง ซึ่งลดความเสี่ยงต่อความเสื่อมได้มาก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มฝึกกล้ามเนื้อใด ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อไม่ให้การ ฝึกฝนนั้นไปสร้างภาระให้กับข้อกระดูก
4. อาหารและยา การรับประทานยาจำพวก กลูโคซามีน และคอนโดรอิทีน ซึ่งเชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างน้ำไขข้อและกระดูกอ่อนเคลือบผิวข้อได้ แต่ไม่ยืนยันว่าได้ประโยชน์มากเท่าใด ทั้งนี้ต้องใช้ในกรณีที่ข้อเสื่อมอยู่ในระยะแรกๆ เท่านั้น
ในส่วนของยานั้น หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิดบ่อยเกินความจำเป็น เพราะอาจมีผลต่อข้อกระดูก “สเตียรอยด์แบบฉีดเพื่อลดการอักเสบของข้อนั้น ถ้าใช้บ่อย ๆ ก็ทำให้ข้อเสียได้ แต่ถ้าเป็นสเตียรอยด์แบบรับประทานก็จะไม่มีผลต่อข้อ แต่มีผลต่อกระดูกโดยรวมเพราะจะทำให้กระดูกบางลง”
โรคข้อเสื่อมเป็นโรคข้ออักเสบที่พบได้บ่อยที่สุด
และยากที่จะรักษาให้หายขาดหรือกลับคืนสู่สภาพปกติ
ดังนั้นการรักษาข้อให้อยู่ในสภาพดีจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นหลักประกันว่า
ในวันข้างหน้าคุณจะยังคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นเดียวกับวันนี้
ผลิตภัณฑ์ จ้อนท์แคร์(jontkare) สามารถป้องกันและแก้ปัญหาโรคข้อเสื่อม
ได้ผลจริง
จ้อนท์แคร์(jontkare) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน
100% เห็น ผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน
จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1,050 บาท
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย ทองสา โทร.084-6822645
, 085-0250423
ID
Line : weerachaicoffee
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น