โรคข้อเสื่อมแบ่งเป็น 2 ประเภทตามสาเหตุและปัจจัยเสริม ได้แก่ 1.ข้อเสื่อมชนิดปฐมภูมิ (primary) คือไม่สามารถระบุสาเหตุหรือปัจจัยเสริมได้ชัดเจน
และเป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุด ส่วน 2.ข้อเสื่อมชนิดทุติยภูมิ (secondary) เกิดจากสาเหตุทางเมตาบอลิก เช่นโรคเก๊าท์เทียม ข้อเสื่อมจากการบาดเจ็บ
และข้อเสื่อมจากโรคข้อเรื้อรังเช่นข้ออักเสบรูมาตอยด์
อย่างไรก็ตามโรคข้อเสื่อมทั้งสองประเภทนี้จะมีอาการและอาการแสดงที่คล้ายคลึงกัน
สาเหตุของโรค โรคข้อเสื่อมเกิดจากหลายสาเหตุ
ดังนี้
1. ปัจจัยทั่วไป (constitutional factors) เช่น พันธุกรรม เพศ อายุที่มากขึ้น น้ำหนักตัว
เพศ เพศหญิงมีโอกาสเกิดข้อเสื่อมมากกว่าเพศชายถึง
2 เท่า โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือช่วงวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากขาดฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน (estrogen)
ส่งผลให้เซลล์กระดูกอ่อนที่มีตัวจับกับฮอร์โมนเพศหญิงทำงานน้อยลง
ทำให้การสร้างโปรติโอไกลแคน (proteoglycan) ที่ใช้ซ่อมแซมเซลล์กระดูกอ่อนลดลง
อย่างไรก็ตามพบว่าหญิงวัยหมดประจำเดือนที่ได้รับยาฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน
จะช่วยลดโอกาสเกิดข้อเข่าและข้อสะโพกเสื่อมได้
อายุ โดยพบว่ามากกว่าร้อยละ
80 ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 75 ปีจะเป็นโรคข้อเสื่อม
ถ้านำผู้สูงอายุกลุ่มดังกล่าวมาถ่ายภาพเอกซเรย์ก็จะพบข้อเสื่อมทุกราย
แต่จะมีอาการหรือไม่นั้นก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นอีก
ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าเมื่ออายุมากขึ้นการตอบสนองต่อสารกระตุ้นการเจริญเติบโต (growth
factor) จะลดลง การสังเคราะห์โปรติโอไกลแคนไม่สมบูรณ์
มีโปรตีนเชื่อมต่อน้อยลง
นอกจากนี้อายุที่มากขึ้นยังทำให้เซลล์กระดูกหมดอายุขัยเร็วขึ้น
รวมถึงการสร้างและการซ่อมแซมเซลล์กระดูกอ่อน (chondrocyte) ลดลง
ความอ้วน บุคคลที่มีน้ำหนักมากหรือมีค่าดัชนีมวลกาย
(body mass index, BMI) สูงกว่าปกติจะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อมเพิ่มขึ้น
เนื่องจากข้อเข่าเป็นจุดรับน้ำหนักของร่างกาย
เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้นแรงที่กดลงบนผิวข้อก็จะเพิ่มขึ้น
และเนื่องจากข้อเข่าเป็นข้อที่ใช้ในการทรงตัวมากที่สุด
ดังนั้นเมื่อใช้งานข้อเข่าอย่างหนักเช่นขึ้นลงบันไดมาก แบกของหนัก
จะยิ่งเพิ่มแรงกดลงที่ข้อเข่า
นอกจากนี้น้ำหนักที่มากเกินไปยังมีผลต่อท่าทางการเดิน
ทำให้เข่าโก่งออกทำให้เวลาเดินจะเจ็บข้อเข่าด้านในได้
2. ปัจจัยเฉพาะที่ (local adverse mechanical factors) เช่น ตำแหน่งของข้อ การบาดเจ็บที่ข้อ ตำแหน่งของข้อ มีผลอย่างมากเนื่องจากเป็นบริเวณที่ต้องรับน้ำหนัก
เช่นข้อเข่า ข้อเท้า ข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อสะโพก
แต่ละข้อมีเอนไซม์และการตอบสนองต่อการอักเสบต่างกัน
สารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบที่สำคัญคือสารไซโตไคน์ (cytokine) โดยพบว่าที่เซลล์กระดูกอ่อนข้อเข่ามีตัวรับไซโตไคน์ ชนิดอินเตอร์ลิวคิน 1
(interleukine 1, IL- 1) และเอนไซม์ MMP-8 มากกว่าที่ข้อเท้า
ดังนั้นข้อเข่าจึงมีโอกาสเสื่อมมากกว่าที่ข้อเท้า
การบาดเจ็บ เป็นจุดเริ่มต้นของข้อเสื่อม
โดยอาจเริ่มจากบาดเจ็บเล็กน้อยและซ้ำซาก
ซึ่งใช้ระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะกลายเป็นข้อเสื่อม
การบาดเจ็บทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงภายในข้อลดลง
ทำให้สารอาหารถูกดูดซึมเข้ามาใช้ซ่อมแซมลดลง นอกจากนี้อาจเกิดรอยร้าวเล็กๆ (microfracture)
บริเวณรอยต่อระหว่างกระดูกกับกระดูกอ่อนและมีหินปูนมาจับบริเวณรอยต่อดังกล่าว
(subchondral bone sclerosis หรือ spur หรือ osteophyte) นอกจากนี้อาจพบโพรงน้ำภายในกระดูกที่อยู่ใต้กระดูกอ่อน
(subchondral bone cyst) สิ่งเหล่านี้ทำให้ความยืดหยุ่นของข้อลดลง
รับแรงกระแทกได้น้อยลง เมื่อเป็นเรื้อรังจะทำให้โครงสร้างของข้อผิดรูปไปจากปกติ
และทำให้เกิดอาการปวด รวมถึงมีปัญหาในการใช้งานข้อนั้นๆ
นอกจากนี้ปัจจัยเฉพาะที่อื่นๆ
ที่ทำให้เกิดข้อเสื่อมได้ เช่น อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อ
โครงสร้างพื้นฐานของข้อในแต่ละบุคคลเช่น โครงสร้างของเส้นเลือด
ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง ฯลฯ
อาการและอาการแสดงของโรคข้อเข่าเสื่อม
อาการโดยร่วมของโรคข้อเข้าเสื่อม ได้แก่
อาการบวมปวด ฝืดตึงข้อตอนเช้า ปวดเสียดในข้อ อาจได้ยินหรือรู้สึกกุบกับภายในข้อ
มักมีอาการมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือหลังการใช้งานข้อมากขึ้น
อาการปวดมักดีขึ้นหลังหยุดใช้งาน
แต่ในรายที่เป็นมากแม้ว่าจะหยุดใช้งานข้อดังกล่าวแล้วอาการปวดอาจคงอยู่ได้หลายชั่วโมง
รายที่มีอาการอักเสบบ่อย ผิวข้อจะแคบลงโดยเห็นได้จากภาพเอกซเรย์ และทำให้ข้อผิดรูป
เช่นเข่าโก่ง จนทำให้ใช้งานข้อนั้นได้ไม่เหมือนปกติ
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแตกต่างกัน
ขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดข้อเสื่อมด้วย เช่นการบาดเจ็บจากเล่นกีฬา การที่เคยเป็นโรคข้ออักเสบอื่นมาก่อ
เช่นข้ออักเสบจากผลึกเกลือ ข้ออักเสบรูมาตอยด์
บางรายเกิดจากการใช้งานมากเกินไปหรือใช้งานผิดประเภท นอกจากนี้ปัจจัยส่วนบุคคลเช่น
เพศ อายุ น้ำหนักตัว ความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อเส้นเอ้นที่พยุงข้อ
ก็มีผลให้อาการและความรุนแรงในแต่ละคนไม่เท่ากัน
จ้อนท์แคร์(jontkare) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน
100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน
จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ผลิตภัณฑ์ จ้อนท์แคร์(jontkare) สามารถป้องกันและแก้ปัญหาโรคข้อเสื่อม
ได้ผลจริง
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1,050 บาท
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย ทองสา โทร.084-6822645
, 085-0250423
ID
Line : weerachaicoffee
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น