กระดูกอ่อนของฉลามชื่อภาษาอังกฤษที่ว่า Shark cartilage ยังถูกนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งสกัดมาจากส่วนหัวและครีบของฉลาม ว่ากันว่าส่วนที่เป็นโครงร่างกระดูกทั้งหมดของฉลามนั้นเป็นกระดูกอ่อน
ในปี ค.ศ. 1992 กระดูกอ่อนปลาฉลามได้รับความนิยมในการเป็นทางเลือกของการรักษาโรคมะเร็ง
โดยมีความเชื่อว่าฉลามเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยพบรายงานว่าเป็นมะเร็งเหมือนกับสัตว์ชนิดอื่นๆ
ซึ่งเป็นไปได้ว่าฉลามมีระบบภูมิต้านทานพิเศษที่สามารถปกป้องตัวเองจากโรคร้ายนี้
เนื่องจากมันมีกระดูกอ่อนในปริมาณสูง
นอกจากนี้การที่ไม่พบหลอดเลือดในกระดูกอ่อน นำไปสู่สมมติฐานที่ว่าเซลล์กระดูกอ่อน
สามารถผลิตสารที่สามารถยับยั้งการสร้างหลอดเลือด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในวงการแพทย์ว่า
กระบวนการสร้างหลอดเลือดใหม่หรือที่เรียกว่า Angiogenesis เป็นกลไกสำคัญของเซลล์มะเร็ง
ในการทำให้ตัวมันได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากเลือดเพื่อให้มันเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นและแพร่ลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ฉะนั้นการที่ค้นพบสารที่ยับยั้งกระบวนการนี้ได้ก็เป็นยุทธวิธีหนึ่งในการต่อสู้กับมะเร็ง ซึ่งการศึกษาพบว่ากระดูกอ่อนปลาฉลามมีสารที่มีคุณสมบัติยับยั้งกระบวนการนี้ด้วย ซึ่งเท่ากับว่าช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งนั่นเอง
นอกจากนี้ยังพบแร่ธาตุแคลเซียม (Calcium) และฟอสฟอรัส (Phosphorus) ทำให้ปัจจุบันมีประยุกต์ใช้กระดูกอ่อนปลาฉลามทางด้านสุขภาพที่หลากหลาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการจากโรคข้อเสื่อม ข้ออักเสบ บรรเทาอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น โรคเรื้อนกวาง เป็นต้น
นอกจากนี้การที่ไม่พบหลอดเลือดในกระดูกอ่อน นำไปสู่สมมติฐานที่ว่าเซลล์กระดูกอ่อน
สามารถผลิตสารที่สามารถยับยั้งการสร้างหลอดเลือด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในวงการแพทย์ว่า
กระบวนการสร้างหลอดเลือดใหม่หรือที่เรียกว่า Angiogenesis เป็นกลไกสำคัญของเซลล์มะเร็ง
ในการทำให้ตัวมันได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากเลือดเพื่อให้มันเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นและแพร่ลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ฉะนั้นการที่ค้นพบสารที่ยับยั้งกระบวนการนี้ได้ก็เป็นยุทธวิธีหนึ่งในการต่อสู้กับมะเร็ง ซึ่งการศึกษาพบว่ากระดูกอ่อนปลาฉลามมีสารที่มีคุณสมบัติยับยั้งกระบวนการนี้ด้วย ซึ่งเท่ากับว่าช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งนั่นเอง
นอกจากนี้ยังพบแร่ธาตุแคลเซียม (Calcium) และฟอสฟอรัส (Phosphorus) ทำให้ปัจจุบันมีประยุกต์ใช้กระดูกอ่อนปลาฉลามทางด้านสุขภาพที่หลากหลาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการจากโรคข้อเสื่อม ข้ออักเสบ บรรเทาอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น โรคเรื้อนกวาง เป็นต้น
พบว่า กระดูกอ่อนปลาฉลามประกอบไปด้วย โปรตีนคอลลาเจน (Collagen) และสารในกลุ่มไกลโคสะมิโนไกลแคน (Glycosaminoglycans) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารคอนดรอยติน (Chondroitin) ซึ่งมีผลในการบรรเทาหรือรักษาโรคข้อเสื่อม และสารในกลุ่มนี้บางชนิดยังมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกด้วยรวมไปถึงการเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของโปรตีนคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ จึงมีส่วนสำคัญในการทำให้ผิวของคนเรานุ่มชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น ผิวเต่งตึงกระชับ ซึ่งเป็นคุณลักษณะของผิว เมื่อยังเยาว์วัยที่เราปรารถนาเป็นเจ้าของ
ประโยชน์ของกระดูกอ่อนปลาฉลาม (Shark
Cartilage) มีมากมาย
ป้องกันมะเร็งโดยสาร Glucoaminoglycans (GAGs)
ป้องกันมะเร็งโดยสาร Glucoaminoglycans (GAGs)
1.
ที่พบในกระดูกอ่อนปลาฉลามจะมีผลยับยั้งการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ๆ
2.
ที่จะไปเลี้ยงเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์มะเร็ง
(Antiangiogenesis)
3.
ทำให้เซลล์เหล่านั้นขาดสารอาหาร
และไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อีก
4.
มีคอลลาเจน (Collagen)
และคอนดรอยติน ซัลเฟต (Chondroitin Sulfate)
5.
ช่วยบรรเทาอาการปวด
อักเสบในผู้ป่วยโรคไขข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
6.
ลดการอักเสบของผิวหนัง เช่น Eczema
และ Psoriasis
7.
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
-ลดการอักเสบของผิวหนัง
เช่น Eczema และ Psoriasis
-เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
ผลิตภัณฑ์ จ้อนท์แคร์(jontkare) สามารถป้องกันและแก้ปัญหาโรคข้อเสื่อม
ได้ผลจริง
การป้องกันข้อเสื่อม ผู้ป่วยควรรู้จักการปฏิบัติตัวที่จะไม่ทำให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น
เช่น การวิ่ง นังพับเพียบในรายที่มีข้อเข่าเสื่อม หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
ในรายที่อ้วยมาก ก็ช่วยลดแรงน้ำหนักตัวที่กระทำต่อข้อได้เช่นกัน
นอกจากนี้การใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ไม้เท้า
จะช่วยลดการถ่ายแรงที่กระทำต่อข้อของขาได้
จ้อนท์แคร์(jontkare) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ผลิตภัณฑ์ จ้อนท์แคร์(jontkare) สามารถป้องกันและแก้ปัญหาโรคข้อเสื่อม
ได้ผลจริง
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1,050 บาท
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ วีระชัย ทองสา โทร.084-6822645
, 085-0250423
ID
Line : weerachaicoffee
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น